ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการดูแลเจ้าตัวเล็กในการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ รวมถึงการแปรงฟันที่เขาไม่ค่อยให้ความร่วมมือมากนักจนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพภายในช่องปากตามมา เช่น ฟันน้ำนมผุ เกิดการติดเชื้อ และต้องถอนฟันน้ำนมออกก่อนวัยอันควร
ทันตแพทย์หญิงปวีณา คุณนาเมือง ทันตแพทย์เด็ก โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลกตัวแทนวิทยากรที่มาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง “Facebook เพจฟันน้ำนม” จากงานจัดการประชุมวิชาการประจำปี 2560 ครั้งที่ 10 สมาคมความพิการปากแหว่ง เพดานโหว่ ใบหน้าและศีรษะ แห่งประเทศไทยที่ผ่านมา ได้เล่าถึงประสบการณ์จากการดูแลเพจ “ฟันน้ำนม” ว่า ผู้ปกครองให้ความสนใจเกี่ยวกับการดูแลฟันของลูกมากพอสมควร ซึ่งการให้ความรู้ผ่านเพจเป็นเหมือนด่านแรกที่จะช่วยให้คำแนะนำเพียงเบื้องต้น พอจะมีส่วนช่วยทำให้ผู้ปกครองกล้าที่จะพาลูกไปพบหมอฟันมากขึ้น
“ส่วนมากที่ถามกันเข้ามาในเพจบ่อยๆ จะเป็นเรื่องพื้นฐาน เช่น “ฟันลูกยังไม่ขึ้นเลย ในอายุเท่านี้ผิดปกติไหม” หรือ “ลูกฟันขึ้นแล้วต้องแปรงฟันเลยหรือไม่” และ “ลูกฟันผุต้องทำยังไง ไปหาหมอฟันได้หรือยัง”
ทั้งนี้ เด็กเขายังเล็กจะไม่ค่อยยอมให้แปรงฟันอยู่แล้ว พ่อแม่แปรงฟันให้ก็จะร้องไห้งอแง หลายครั้งที่พ่อแม่ความรู้สึกต่างกัน เช่น แม่อยากบังคับให้ลูกแปรง แต่พ่อรู้สึกไม่สบายใจที่จะแปรง ก็จะไม่ประสบความสำเร็จก็ปล่อยไปเรื่อยๆ ไม่คอยดูแลเพราะเห็นว่าเป็นแค่ฟันน้ำนมเดี๋ยวก็หลุด ซึ่งทำให้เกิดผลเสียตามมาเช่น ฟันผุตั้งแต่อายุยังน้อย มีการเจ็บปวดติดเชื้อ ถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อที่จะให้ยาฆ่าเชื้อ หรือต้องถอนฟันก่อนเวลาอันควร ตอนนี้ก็จะเห็นว่าพ่อแม่ตระหนักมากขึ้นโดยการให้ข้อมูลไปเรื่อยๆ และขอแนะนำให้พ่อแม่พาลูกไปพบหมอฟันโดยเร็วภายใน 1 ขวบ” ทันตแพทย์หญิงปวีณา กล่าว
ทั้งนี้ ทันตแพทย์หญิงปวีณา ได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ว่า การดูแลผู้ที่มีภาวะดังกล่าวเป็นเรื่องที่แตกต่างไปจากการดูแลเด็กทั่วไป ดังนั้น เรื่องของจิตใจของผู้ดูแล และการให้ข้อมูลเชิงบวกถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการดูแลรักษาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเทียบเท่ากับคนปกติทั่วไป
“อันดับแรกคือจิตใจของผู้ดูแล กล่าวคือ เมื่อมีโรคประจำตัวแบบนี้แล้ว ผู้ปกครองบางคนจะไม่ค่อยกล้าที่จะขัดใจเพราะจะรู้สึกสงสารลูก ก็เลยทำให้การดูแลยากขึ้นกว่าเดิม เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องให้ข้อมูลในเชิงบวก เช่น การให้กำลังใจ ซึ่งเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ปัจจุบัน คุณหมอหลายๆ ท่านเก่งมากและทำงานกันเป็นทีม สามารถดูแลรักษาได้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ และฟันน้ำนมเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะทำให้โครงสร้างของเหงือกดี ไม่ยุบ ทำให้การดูแลทุกอย่างเป็นผลที่ดีขึ้น”
นอกจากนี้ ทันตแพทย์หญิงปวีณา ฝากทิ้งท้ายว่า ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีข้อมูลทางสื่อออนไลน์อยู่เป็นจำนวนมากก็ตาม แต่มีความเชื่อว่าหากผู้รับข้อมูลแต่ละคนมีการใช้วิจารณญาณอย่างมีสติ ก็จะสามารถเลือกรับข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือได้เช่นกัน
“เราต้องใช้สติก่อนอย่าเพิ่งเชื่อ ดูก่อนว่ามีแหล่งอ้างอิงที่ดีหรือไม่ ต้นตอต้นเรื่องมากจากไหน ถ้าเราอ่านโดยใช้วิจารณญาณ เชื่อว่าทุกคนน่าจะเลือกเชื่อ เลือกตัดสินใจรับข้อมูลนั้นๆ ได้”
ขอขอบคุณผู้ให้สัมภาษณ์ : ทันตแพทย์หญิงปวีณา คุณนาเมือง ทันตแพทย์เด็ก โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก
ตัวแทนวิทยากร จากงานจัดการประชุมวิชาการประจำปี 2560 ครั้งที่ 10
สมาคมความพิการปากแหว่ง เพดานโหว่ ใบหน้าและศีรษะ แห่งประเทศไทย