เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 11.30 น. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์จตุวิทย์ หอวรรณภากร ประธานคณะกรรมการไกล่เกลี่ยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ตัวแทนคณะผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชน ที่ห้องประชุมสำนักผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร กรณีการเสียชีวิตของ ด.ญ.พิชญาภรณ์ สามโพธิ์สี หรือ น้องออม วัย 1 ขวบ 8 เดือน บุตรสาวนายวิชัย สามโพธิ์สีอายุ นางรัตนา สามโพธิ์สี
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์จตุวิทย์ หอวรรณภากร ประธานคณะกรรมการไกล่เกลี่ยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ตัวแทนคณะผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า เป็นความสูญเสียที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น สำหรับสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นยังคงอยู่ในกระบวนการสอบสวน
“ตามข่าวที่สื่อมวลชนได้เสนอไปนั้น เป็นการสูญเสียที่ทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรและทีมแพทย์รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยและรู้สึกเสียใจต่อครอบครัวของน้องออมเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการชี้แจงสาเหตุนั้น ยังอยู่ในกระบวนการของการสืบสวนสอบสวนอยู่ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ สิ่งที่อยู่ในสาเหตุการตายในใบรับรองการตายที่โรงพยาบาลเขียนออกไปนั้นเป็นผลสุดท้าย เป็นภาพสุดท้ายที่ปรากฏ ณ ตอนที่น้องเสียชีวิต แต่เหตุตั้งต้นว่าเกิดจากอะไรนั้นเรากำลังทำการพิจารณาทุกข้อ ทุกประเด็นที่จะเป็นไปได้ พร้อมทั้งยังได้ส่งตัวอย่างเลือดไปตรวจด้วยเพื่อหาสาเหตุ โดยในกรณีดังกล่าวต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งทางเราทราบด้วยว่ามีการส่งศพน้องไปผ่าชันสูตรด้วย ซึ่งผลการผ่าศพชันสูตรจะต้องใช้เวลากว่า 1 เดือน
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมีการสอบถามมาจากทางญาติ โดยตอนที่สอบถามมานั้นทางเราก็กำลังพิจารณารวบรวมข้อมูลกันอยู่ว่าเราจะดำเนินการอย่างไรกันบ้าง จนเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 ช่วงเย็น ทางทีมผู้บริหาร แพทย์เจ้าของไข้ ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ไปร่วมงานสวดอภิธรรมของน้องออม เพื่อไปแสดงความเสียใจและแสดงความรับผิดชอบต่อครอบครัวของน้องออมด้วยครับ
ส่วนกรณีการดมยาสลบนั้น มีข้อสงสัยว่าทำไมเด็กเล็กต้องดมยาสลบด้วย ขอเรียนว่าการตรวจบางอย่างจะต้องทำให้นิ่งเพื่อให้ภาพออกมาชัดเจน การวินิจฉัยจะต้องเห็นในส่วนที่มีรอยโรคอยู่ น้องออมอายุยังน้อยอาจจะดิ้นไปดิ้นมามันจะทำให้ไม่ได้ภาพการทำ MRI ที่ชัดเจนเพื่อวินิจฉัย ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ตามข้อบ่งชี้ครับ
สำหรับการเยียวยานั้น ประเด็นที่ 1 ตามนโยบายของ สปสช. ใน มาตรา 41 เราก็จะมีการทำหนังสือขอรับการเยียวยาจากการสูญเสียในครั้งนี้ ในวงเงินเบื้องต้นประมาณ 400,000 บาท สำหรับในประเด็นที่ 2 ก็จะมีการเยียวยาจาก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ด้วยก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะมีการพิจารณากันต่อไป ซึ่งเราก็จะทำไปพร้อมๆ กัน อย่างไรก็ตาม ทางคณะแพทยศาสตร์ ก็จะทำให้เต็มที่ในการที่จะให้ทางครอบครัวได้รับการชดเชยหรือเยียวยาอย่างเหมาะสม” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์จตุวิทย์ หอวรรณภากร กล่าว
—————————————-