คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนพร้อมเยียวยาอย่างเต็มที่ ร่วมกับนโยบายของ สปสช.มาตรา 41 กรณีเด็กขวบเศษเสียชีวิต

     เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 11.30 น. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์จตุวิทย์ หอวรรณภากร ประธานคณะกรรมการไกล่เกลี่ยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ตัวแทนคณะผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชน ที่ห้องประชุมสำนักผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร กรณีการเสียชีวิตของ ด.ญ.พิชญาภรณ์ สามโพธิ์สี หรือ น้องออม วัย 1 ขวบ 8 เดือน บุตรสาวนายวิชัย สามโพธิ์สีอายุ นางรัตนา  สามโพธิ์สี

     ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์จตุวิทย์ หอวรรณภากร ประธานคณะกรรมการไกล่เกลี่ยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ตัวแทนคณะผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า  เป็นความสูญเสียที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น สำหรับสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นยังคงอยู่ในกระบวนการสอบสวน

     “ตามข่าวที่สื่อมวลชนได้เสนอไปนั้น เป็นการสูญเสียที่ทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรและทีมแพทย์รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยและรู้สึกเสียใจต่อครอบครัวของน้องออมเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการชี้แจงสาเหตุนั้น  ยังอยู่ในกระบวนการของการสืบสวนสอบสวนอยู่ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่  สิ่งที่อยู่ในสาเหตุการตายในใบรับรองการตายที่โรงพยาบาลเขียนออกไปนั้นเป็นผลสุดท้าย  เป็นภาพสุดท้ายที่ปรากฏ ณ ตอนที่น้องเสียชีวิต  แต่เหตุตั้งต้นว่าเกิดจากอะไรนั้นเรากำลังทำการพิจารณาทุกข้อ ทุกประเด็นที่จะเป็นไปได้  พร้อมทั้งยังได้ส่งตัวอย่างเลือดไปตรวจด้วยเพื่อหาสาเหตุ  โดยในกรณีดังกล่าวต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์  ซึ่งทางเราทราบด้วยว่ามีการส่งศพน้องไปผ่าชันสูตรด้วย  ซึ่งผลการผ่าศพชันสูตรจะต้องใช้เวลากว่า 1 เดือน

     หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมีการสอบถามมาจากทางญาติ  โดยตอนที่สอบถามมานั้นทางเราก็กำลังพิจารณารวบรวมข้อมูลกันอยู่ว่าเราจะดำเนินการอย่างไรกันบ้าง  จนเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์  2561  ช่วงเย็น  ทางทีมผู้บริหาร  แพทย์เจ้าของไข้ ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ไปร่วมงานสวดอภิธรรมของน้องออม เพื่อไปแสดงความเสียใจและแสดงความรับผิดชอบต่อครอบครัวของน้องออมด้วยครับ

     ส่วนกรณีการดมยาสลบนั้น มีข้อสงสัยว่าทำไมเด็กเล็กต้องดมยาสลบด้วย ขอเรียนว่าการตรวจบางอย่างจะต้องทำให้นิ่งเพื่อให้ภาพออกมาชัดเจน  การวินิจฉัยจะต้องเห็นในส่วนที่มีรอยโรคอยู่  น้องออมอายุยังน้อยอาจจะดิ้นไปดิ้นมามันจะทำให้ไม่ได้ภาพการทำ MRI ที่ชัดเจนเพื่อวินิจฉัย  ดังนั้น  จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ตามข้อบ่งชี้ครับ

     สำหรับการเยียวยานั้น  ประเด็นที่ 1 ตามนโยบายของ สปสช. ใน มาตรา 41 เราก็จะมีการทำหนังสือขอรับการเยียวยาจากการสูญเสียในครั้งนี้ ในวงเงินเบื้องต้นประมาณ 400,000 บาท   สำหรับในประเด็นที่ 2 ก็จะมีการเยียวยาจาก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร คณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยนเรศวร ด้วยก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะมีการพิจารณากันต่อไป  ซึ่งเราก็จะทำไปพร้อมๆ กัน  อย่างไรก็ตาม  ทางคณะแพทยศาสตร์  ก็จะทำให้เต็มที่ในการที่จะให้ทางครอบครัวได้รับการชดเชยหรือเยียวยาอย่างเหมาะสม” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์จตุวิทย์ หอวรรณภากร  กล่าว

—————————————-

Loading

แชร์รายการนี้
fb-share-icon