เภสัชกร เผย ไม่มีการใช้ยาวาลซาร์แทน ในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่อยู่ในการดูแล

      เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561  เวลา 14.00 น. เภสัชกรชัยวัฒน์ บูรณะชนอาภา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรให้สัมภาษณ์รายการ “สุขกาย สบายใจ” ของสถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร F.M. 107.25 MHz  ในประเด็นเรื่อง “โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ให้ข้อมูลการเรียกเก็บคืนยาลดความดัน ยาวาลซาร์แทน ในส่วนของทางโรงพยาบาลไม่มีการจ่ายยาตัวดังกล่าว”

      ตามที่มีการเรียกเก็บคืนผลิตภัณฑ์ยา Valsartan ใน 22 ประเทศทั่วโลก หลังพิสูจน์พบสารก่อมะเร็งในวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตยา ซึ่งบริษัท Zhejiang Huahai Pharmaceuticals เป็นผู้ผลิตวัตถุดิบวาลซาร์แทน ในประเทศจีน ได้ออกมายอมรับถึงความผิดพลาดว่า เกิดจากการเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตวัตถุดิบ สำหรับประเทศไทย มีบริษัทผู้รับอนุญาตผลิต นำเข้า หรือสั่งยาวาลซาร์แทน เข้ามาในราชอาณาจักร 7 บริษัท และมีทะเบียนตำรับยาที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่าย 14 ตำรับ แต่จากการตรวจสอบพบว่า มีบริษัทผู้รับอนุญาตที่ใช้วัตถุดิบจาก Zhejiang Huahai Pharmaceuticals เพียง 2 ราย คือบริษัท สีลมการแพทย์ จำกัด และ บริษัท ยูนีซัน จำกัด ซึ่งมีเลขทะเบียนตำรับ รวม 5 ตำรับ บริษัท สีลมการแพทย์ จำกัด มี 2 ทะเบียนตำรับ คือ VALATAN 80 และ VALATAN 160 ส่วนบริษัท ยูนีซัน จำกัด มี 3 ทะเบียนตำรับ คือยา VALSARIN 80, VALSARIN 160 และ VALSARIN 320  เพื่อความปลอดภัย อย.จึงเรียกเก็บผลิตภัณฑ์ยาวาลซาร์แทน ในทุกรุ่นการผลิตคืนจากท้องตลาดภายใน 15 วัน พร้อมสั่งให้ผู้รับอนุญาตผลิตยาทั้ง 2 แห่ง ระงับการผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาวาลซาร์แทนทุกทะเบียนที่มีการใช้วัตถุดิบวาลซาร์แทน จากแหล่งผลิตดังกล่าวเป็นการชั่วคราว รวมทั้งระงับการจำหน่ายเภสัชเคมีภัณฑ์วาลซาร์แทน ที่มาจากแหล่งผลิตดังกล่าว และ อย.จะดำเนินการควบคุมการทำลาย ยาวาลซาร์แทน เป็นยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยที่เคยได้รับผลิตภัณฑ์ยาวาลซาร์แทนในการรักษามาอย่างต่อเนื่องไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้ยารักษาโรคความดันโลหิตสูงตัวอื่น โดยยังคงสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ยาวาลซาร์แทน เลขทะเบียนตำรับอื่นที่ไม่มีการปนเปื้อนสารก่อมะเร็งได้

      สำหรับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จะใช้ยาที่มีชื่อว่า TAREG เป็นยาที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทNOVATIS ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นคนละแหล่งการผลิตของยาที่มีปัญหา ไม่มีตัวยาสำคัญจากประเทศจีน และยาตัวนี้ต้องจ่ายด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอายุรกรรม  ดังนั้น ยากลุ่มนี้จะไม่มีการใช้ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเครือข่ายของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ดังนั้น จึงขอให้มั่นใจได้ว่าคนไข้ที่ได้รับยาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรจะได้รับยาที่มีคุณภาพไม่มีสิ่งอื่นเจือปนมาในยา ทั้งนี้
หากมีข้อสงสัยด้านยาติดต่อได้ที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร โทรศัพท์ 0 5596 5666

Loading

แชร์รายการนี้
fb-share-icon