ตัวแทนนิสิตวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวร จากประเทศภูฏาน

        นิสิตชาวต่างชาติที่เข้ามาศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยในประเทศไทย แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาเพียงไม่นาน แต่หลายคนต่างก็รู้สึกประทับใจในขณะที่กำลังศึกษา ประสบการณ์ในการเรียนและการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย การปรับตัวเข้ากับเพื่อนใหม่ สถานที่ใหม่ บรรยากาศการเรียน สิ่งแวดล้อม ทุกสิ่งคือโอกาสแห่งการเรียนรู้ ท่ามกลางความแตกต่างทางวัฒนธรรม

        ติดตามบทสัมภาษณ์ตัวแทนนิสิตวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวร จากประเทศภูฏาน   Ms. Pema Tshomo Tourism Business Management NUIC : Naresuan University

ทำไมถึงเลือกมาเรียนที่ มหาวิทยาลัยนเรศวร

“ ได้รับทุนจากรัฐบาลภูฏานให้มาเรียนที่นี่ ถือว่าเป็นโชคชะตาลิขิตให้มาค่ะ”

ก้าวแรกที่ได้เข้ามาเรียนที่นี่ ประทับใจอะไรที่มหาวิทยาลัยนเรศวร

        “ ประทับใจวัฒนธรรมไทยที่ค่อนข้างคล้ายกับวัฒนธรรมของภูฏาน คือมีความสามัคคี มีน้ำใจโอบอ้อมอารีต่อกัน มีความเชื่อในการเคารพผู้อาวุโส และมีความรักครอบครัวเช่นเดียวกัน ดังนั้น ดิฉันจึงรู้สึกว่าที่นี่คือบ้านของตัวเอง ไม่ได้มีความรู้สึกต่างบ้านต่างเมืองและโดดเดี่ยว เพราะมหาวิทยาลัยนเรศวรถือว่าเป็นครอบครัวและบ้านของดิฉัน อีกทั้งสิ่งแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยมีทั้งความสงบ ร่มรื่น เหมาะสำหรับการเรียนเป็นอย่างมาก ”

ชีวิตประจำวันภายในมหาวิทยาลัย

        “ ดิฉันมีชีวิตประจำวันที่ดีมาก ไปเรียนหนังสือ ได้พบปะกับเพื่อนๆ อาจารย์ที่ดีและน่ารัก คอยช่วยเหลือในทุกเรื่อง ดิฉันสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมที่นี่ได้เป็นอย่างดี ทำให้ดิฉันมีความสุขมาก “

ประสบการณ์การใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย

        “ นอกจากการใช้ชีวิตปกติในแต่ละวันคือการไปเรียนแล้ว บางวันดิฉันยังได้ทำกิจกรรมพิเศษที่นอกเหนือจากนั้น เช่น การไปให้อาหารปลา ขี่จักรยานรอบๆมหาวิทยาลัย มาเดินออกกำลังกายที่ลานสมเด็จฯ และอีกกิจกรรมหนึ่งที่ดิฉันรู้สึกชอบคือ กิจกรรมจิตอาสาของกองกิจการนิสิต ดิฉันได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมสมุดทำมือ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีมากค่ะ เพราะดิฉันได้มีส่วนร่วมทำกิจกรรม นำสิ่งดีๆกลับคืนสู่ชุมชน ดิฉันหวังว่าจะมีโอกาสได้ทำกิจกรรมจิตอาสาอีกค่ะ ”

ความแตกต่างทางด้านการศึกษาระหว่างประเทศไทยและประเทศภูฏาน

        “ การศึกษามีความแตกต่างกันในเรื่องของการแสดงออกทางด้านการพูดค่ะ นิสิตไทยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยกล้าพูด กล้าแสดงออกกับนิสิตต่างชาติ บางครั้งนิสิตไทยอายที่จะสื่อสารกับนิสิตต่างชาติ ดิฉันคิดว่าการศึกษาควรเน้นทางด้านการแสดงออกทางด้านการพูดมากกว่าเรื่องไวยากรณ์ค่ะ “

สิ่งที่อยากทำในอนาคต

        “ ดิฉันต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทถ้ามีโอกาส  และต้องการจะทำงานที่ประเทศไทยประมาณ 2-3 ปี เพื่อสั่งสมประสบการณ์และนำเอาประสบการณ์นั้นกลับไปประยุกต์ใช้ในการทำงานที่ประเทศภูฏาน “

 

ขอขอบคุณ : กองกิจการนิสิต , วิทยาลัยนานาชาติ  มหาวิทยาลัยนเรศวร
แปลโดย : นางสาวจุฑารัตน์  ราชพริ้ง นักวิเทศสัมพันธ์ กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร

————————————————–

News: 0068