ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่องค์การทหารผ่านศึกฯ บุคลากรและนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมใจร่วมกิจกรรม “ปลูกต้นไม้ มหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปี 2560” โดยมีการปลูกต้นตีนเป็ดน้ำ จำนวน 150 ต้น ต้นจามจุรี จำนวน 60 ต้น และต้นประดู่กิ่งอ่อน จำนวน 20 ต้น เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับมหาวิทยาลัย 3,200 ตารางเมตร ณ บริเวณพื้นที่ว่างข้างโรงผลิตน้ำแร่ มหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา
ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวรกล่าวแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี วันสวรรคตฯ โดยกล่าวว่า มหาวิทยาลัยนเรศวรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ในด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม จึงมีการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนได้เรียนรู้แนวทางพระราชดำริ รวมถึงให้ความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้ของชาติ รวมทั้งปลูกฝังจิตสำนึก รักผืนป่า ตามปรัชญา ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานไว้ และเพื่อให้การปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ เป็นการปลูกต้นไม้ในหัวใจ
“วันนี้เป็นวันมงคลด้วยและเป็นวันที่ระลึกที่พวกเราต้องจารึกไว้ในแผ่นดิน ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนจารึกไว้ในหัวใจทั้งหมด วันนี้เป็นวันที่พระผู้เสวยสวรรค์ กำลังฟังเราอยู่บนสวรรค์ ชาวมหาวิทยาลัยนเรศวรจะมาทำกิจกรรมเพื่อระลึกถึงพระองค์ท่าน พระองค์ท่านผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของคนไทย พระองค์ท่านผู้เป็นปราชญ์ของโลก ทุกคำสอนของพ่อยังก้องอยู่ในโสตประสาทของคนไทยทุก ๆ คน
วันนี้เปิดดวงตามาตั้งแต่เช้า น้ำตาก็หยดแต่เช้า “รักพ่อเนาะ” ผมเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศและทั้งโลกเหมือนกันเหมือนกับเรานี่แหละ วันนี้มหาวิทยาลัยนเรศวรก็อาศัยพระบารมีขององค์สมเด็จพระนเรศวรก็ถือว่าเป็นพ่อเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เราอาศัยอยู่ตรงนี้
พ่อสอนเราให้รู้จักธรรมชาติ เพราะมนุษย์ก็คือธรรมชาติ ไม่ให้เบียดเบียนซึ่งกันและกันในธรรมชาติ ปล่อยให้ธรรมชาติอิสระ จริง ๆ แล้วป่าไม้ต้นไม้เราไม่ต้องไปปลูกหรอกครับ ถ้าทุกคนปลูกต้นไม้ในหัวใจ คือไม่ไปตัดต้นไม้ ปลูกเท่าไหร่ถ้าคนยังตัด ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ทำดีอย่างไรถ้ายังไม่ละเว้นการทำความชั่วมันก็ไปไม่รอด คิดดีคิดเก่งอย่างไร ถ้าตัวเองยังไปไม่ถึงตรงนั้น ยังไม่ปล่อยจิตว่าง ยังติดสักกายทิฏฐิยังไม่ลดทิฏฐิแห่งตน ไปไม่รอดหรอกครับ
พระพุทธองค์ท่านสอนไว้อย่าติดสักกายทิฏฐิ คิดว่าสิ่งนี้เป็นของฉัน อันนั้นเป็นของตัวเอง เราเก่ง ฉันเก่ง ไปไม่รอดหรอกครับ พ่อไม่เคยพูดสักคำว่าพ่อเก่ง พ่อไม่เคยบ่นสักคำว่าพ่อเหนื่อย พ่อไม่เคยบอกกับพวกเราว่าเราท้อเหลือเกิน
70 ปีที่ทรงงาน ลองคิดดูเอาเองคน 70 ปี ที่ทำงานโดยไม่มีวันหยุดเลย ไม่มีวันพักเลย มีสักกี่ครั้งที่เราได้เห็นรอยยิ้มของพระองค์ท่าน ทรงเครียดทุกสิ่งทุกอย่าง พ่อแม่ถ้าเห็นลูกทะเลาะกันพ่อแม่ก็คงไม่สบายใจ พระองค์ท่านก็เป็นพ่อของแผ่นดิน ซึ่ง ณ วินาทีนี้หมดเวลาของพระองค์ท่านให้ท่านได้พัก ก็ปล่อยให้พวกเราลูกหลานไทย ได้มาสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่าน
ขอขอบคุณสำหรับกิจกรรมนี้ ทำให้เรานึกถึงพ่อ ถ้าคนไทยทุกคนรักพ่อจริง ๆ เอาแค่ตรงนี้ก็ได้ ที่ฟังผมอยู่ขณะนี้ ถ้ารักพ่อจริง ๆ ไปปลูกต้นไม้คนละต้น ไม่ใช่แค่ปลูกตรงนี้ ไปปลูกที่ไหนก็ได้ในแผ่นดิน แต่ปลูกแล้วต้องรอด แล้วก็ปลูกทีละต้น พอถึงวันเกิดก็ทีละต้นทุกปีจนกว่าจะสิ้นอายุขัย
ท่านรู้ไหมถ้าคนไทย 65 ล้านคนทำได้อย่างนี้ ไม่เกิน 10 ปี คนไทยจะไม่มีที่เดินเพราะเดินชนต้นไม้ตาย (เดินชนต้นไม้ที่เราปลูกไว้) นี่คือสัจธรรม แต่คนไทยไม่เคยตระหนัก ฟัง รู้ แต่ไม่เคยตระหนัก ลองลงมือทำ ความสำเร็จใช่แค่คิดสัมฤทธิ์ผล ต้องลงมือทำบัดดลผลเห็น ๆ เหงื่อทุกหยดที่หมดไปมันก็ได้ที่เป็น ผลผลิตงามเด่นเป็นรางวัล ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยไม่เสียเหงื่อ ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยที่ไม่เสียพลังงาน นี่คือสัจธรรมของชีวิตที่พ่อสอนให้เราเห็นประจักษ์ว่าหยาดเหงื่อของพ่อแต่ละเม็ดที่รดบนผืนแผ่นดินไทย ทุกรอยพระบาทที่พระองค์ก้าวไปมีแต่ความสงบร่มรื่นและก็ร่มเย็น คนไทยล่ะ ไหนบอกว่าจะเดินตามรอยเท้าพ่อ
วันนี้มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นจุดเริ่มต้น ขอให้จัดอย่างนี้ในทุก ๆ ปี ไม่ถึง 5 ปี หรือ 10 ปี นี่คือสิ่งที่ปลูกไว้ ตราไว้ในแผ่นดิน สิ่งเหล่านี้เขาเรียกว่าปลูกความดีไว้ในแผ่นดิน ซึ่งไม่มีใครเอาไปไหนได้ คนไทยทำหรือยัง ทำเถอะครับ นี่คือสิ่งที่ออกมาเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน คิดและต้องทำด้วย และก็ขอตระหนักในวันนี้เราทำเพื่อพ่อ ปลูกแล้วคิดถึงพ่อ ขอให้ต้นไม้ทุกต้นรอด บูชาพ่อในวันนี้ แล้วเราจะบูชาพ่อตลอดไปในฐานะที่เป็นลูกที่ดีให้กับพ่อ” ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ปรีชา กล่าว