ม.นเรศวร จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2563

       เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปีการศึกษา 2563 ณ อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก

       สำหรับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปีการศึกษา 2563 ในปีนี้มีผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จำนวน 3,273 คน แบ่งเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาตรี 2,896 คน ระดับปริญญาโทและปริญญาเอก 377 คน

       นอกจากนี้ สภามหาวิทยาลัยนเรศวร มีมติอนุมัติบุคคลผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จำนวน 4 ราย ได้แก่

1. ดร.สุธนี บิณฑสันต์ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์

2. นางสาววนิดา พึ่งสุนทร ปริญญาสถาปัตยกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสถาปัตยกรรม

3. ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์

4. พระเมธีวชิโรดม (วุฒิชัย วชิรเมธี) ปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพัฒนศึกษา

       เมื่อเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด “อาคารสุขวิทยาสถิตย์” ณ คณะสาธารณสุขศาสตร์ โดยเป็นอาคารจัดการเรียนการสอน ใน 3 กลุ่มสาขาวิชาของคณะ ได้แก่ อนามัยชุมชน การแพทย์แผนไทยประยุกต์ อนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย ผลิตบัณฑิตทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยมีบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาจากคณะฯ จำนวน 5,258 คน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการปฏิบัติงานสาธารณสุข ในการดูแล ส่งเสริม และบริการด้านสุขภาพให้กับประชาชน

       ทั้งนี้ คณะฯ ได้มีการขอพระราชทานชื่ออาคารเพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากร นิสิต และสถานที่ราชการแห่งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานชื่อว่า “อาคารสุขวิทยาสถิตย์” หมายถึง อาคารอันเป็นที่ตั้งของแหล่งความรู้ด้านการสาธารณสุข  และพระราชทานพระราชานุญาตให้อันเชิญอักษรพระนามาภิไธย “ส.ธ.” ประดับที่ป้ายชื่ออาคาร

       จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการแพทย์แผนไทยภายในอาคารสุขวิทยาสถิตย์ ณ สถานปฏิบัติการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คลินิกอาศรมเสลา มหาวิทยาลัยนเรศวร จะมีการสาธิต 2 ส่วน ได้แก่

       ส่วนที่ 1 การนวดไทยแบบราชสำนัก ซึ่งเป็นศาสตร์การนวดที่สืบทอดมาจากแพทย์แผนไทยที่ทำงานในวังเจ้านายชั้นสูง และส่วนที่ 2 การดูแลมารดาหลังคลอดตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย

       ภายในโถงอาคารสุขวิทยาสถิตย์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร มีการจัดแสดงนิทรรศการ ร่วมกับศิษย์เก่าและหน่วยงานเครือข่ายด้านการแพทย์แผนไทย จำนวน 4 นิทรรศการ ได้แก่

       นิทรรศการ“นวัตกรรมทางด้านการแพทย์แผนไทย” จากสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ประกอบไปด้วย ลูกประคบร้อนควบคุมอุณหภูมิด้วยระบบดิจิตอลจากไฟฟ้า เป็นลูกประคบเสริมเทคโนโลยีเพื่อให้ทันยุคดิจิตัล ควบคุมอุณหภูมิได้ และการให้ความร้อนที่สม่ำเสมอ ใช้กระแสต่ำเพื่อความปลอดภัยกับผู้ใช้โดยใช้ร่วมกับสเปรย์สมุนไพรสูตรลูกประคบ และนวัตกรรมยุคโควิดคือตู้ฆ่าเชื้อด้วยระบบโอโซนที่มีประสิทธิผล และการทะลุลวงได้สูง สามารถฆ่าเชื้อแม้เป็นสปอร์เชื้อราที่ฆ่าได้ยากที่สุด ในระยะเวลาสั้น และสเปรย์ฆ่าเชื้อบนพื้นผิวทั้งผิวพื้นและผิวมนุษย์ สามารถลดและคุมบริมาณเชื้อจุลชีพได้

       นิทรรศการ “ยาและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร” จากโรงพยาบาลบางกระทุ่ม ซึ่งมีโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ได้รับรองมาตรฐาน WHO GMP โดยมีผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาทิ ยาชง ยาน้ำ ยาลูกกลอน และยาแคปซูล เป็นต้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์พิษณุโลกเมืองสมุนไพรและการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ travel with S-H-E Healthy Pit’Lok

       นิทรรศการ “การรมยา รมโพรงจมูกป้องกันโควิด” คือ การรมโพรงจมูกด้วยสมุนไพรทรงปลูก เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)  จากวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก สมุนไพรตัวหลักที่นำมาปรุงยา คือ ต้นปาริชาติ (ต้นไม้ทรงปลูก เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2559) และโปร่งฟ้า นำมาผสมกันปรุงยาตำรับ  ชื่อ“โปร่งฟ้าสมุนไพรสุมยา” สรรพคุณ บรรเทาห่าลงปอด ภูมิแพ้ หวัด และปวดไมเกรน

       นิทรรศการ “การสักยาและการบ่งต้อด้วยหนามหวาย”  จากโรงพยาบาลลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร เป็นศาสตร์การรักษาโรคต้อที่เกิดกับดวงตาประเภทต่าง ๆ ด้วยหนามหวาย และการสักยาร่วมกับน้ำมันสมุนไพร

Loading

แชร์รายการนี้
fb-share-icon