ทีมข่าวสถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร F.M.107.25 MHz ได้ร่วมเข้าพูดคุยเกี่ยวกับการร่วมถอดบทเรียน คณะพยาบาลศาสตร์ กับบทบาทด้านการเรียน การสอน จากการบรรยายของ Prof.Dr.Barbara Mawn ซึ่งได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ โทจำปา รองคณบดีฝ่ายวิจัย วิเทศสัมพันธ์และบัณฑิตศึกษา, ดร.ขวัญแก้ว วงษ์เจริญ อาจารย์ประจำกลุ่มวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ, ดร.อลงกรณ์ อักษรศรี อาจารย์ประจำกลุ่มวิชาการพยาบาลเด็ก และ ดร.ปวงกมล กฤษณบุตร อาจารย์ประจำกลุ่มวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ที่ผ่านมา
โดย ดร.ปวงกมล กฤษณบุตร กล่าวตอนหนึ่งที่เชื่อมโยงถึงสถานการณ์ของ COVID – 19 ว่าหลักทฤษฎีการส่งเสริมสุขภาพยังคงใช้ได้ “ต้องขอเรียนว่ามันยังคงใช้ได้ และยังคงใช้ได้ดีในเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพ มันไม่ใช่ใช้ได้ในระยะเจ็บป่วย มันใช้ได้ในทุกระยะในทุกช่วงวัย สำหรับสถานการณ์ COVID – 19 ตอนนี้ ที่กำลังเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างฉุกเฉิน อาจจะเป็นเรื่องใหม่ ต้องขอเรียนแจ้งประชาชนทุกท่านให้ได้ทราบว่า ขอให้อย่าตื่นตระหนก ซึ่งเคยผ่านสถานการณ์แบบนี้มาแล้ว เช่น ไข้หวัดซาร์ส ดังนั้น ถ้าเราผ่านตรงนั้นมาได้ ครั้งนี้เราน่าจะผ่านไปได้ แต่แค่ขอทุกคนอย่าตื่นตระหนก และอยากให้ประชาชนที่มีสุขภาพดีอยู่ตอนนี้ ประชาชนทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรง ออกกำลังกายได้ ทำงานได้ตามปกติ ขอให้รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามปกติ
ดร.ปวงกมล เน้นย้ำอีกว่า ในเรื่องการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในขั้นพื้นฐานสามารถกลับไปสู่เบื้องต้นเลยง่าย ๆ แค่ล้างมือ ซึ่งในบุคคลทั่วไปที่ยังไม่เจ็บป่วย การใช้ผ้าปิดปาก หรือหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ อาจจะยังไม่จำเป็น เพียงแค่ล้างมือ เวลาไอจามควรปิดปากหรือใช้กระดาษทิชชู ใช้เสร็จให้นำไปทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด ทานอาหารร้อน ใช้ช้อนกลาง และล้างมือให้ถูกวิธีเพียง 7 ขั้นตอน ใช้เวลาประมาณ 15 – 20 วินาที ซึ่งสามารถหาวิธีการล้างมือได้จากเว็บไซต์ทั่วไป เรียกได้ว่าเป็นทฤษฎีการส่งเสริมสุขภาพของบุคคลทั่วไปเป็นวิธีการง่าย ๆ บุคคลทั่วไปสามารถใช้ได้
นอกจากนี้ สำหรับบุคคลที่มีอาการคล้ายคลึงกับไข้หวัด จะต้องสังเกตตัวเองว่า เรามีอาการไอ หรือว่ามีไข้หรือไม่ ตรงนี้ก็เป็นการส่งเสริมสุขภาพไม่ให้เจ็บป่วยมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าไปที่โรงพยาบาลและไปตรวจกับ
คุณหมอในโรงพยาบาลที่ใกล้กับที่อยู่อาศัยได้เลย ตรงนี้ก็เป็นเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพไม่ให้เจ็บป่วยมากยิ่งขึ้น หากประชาชนท่านใดอยากได้ข้อมูลข่าวสาร ว่าตอนนี้เรามีผู้ป่วยติดเชื้อกี่คน ไปที่เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข เราสามารถดูข้อมูลตรงนั้นได้เลย และระมัดระวังในการเสพข่าวลวง หรือการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และอัพเดทข้อมูลข่าวสาร ในเว็บไซต์นั้นจะมีเรื่องของการปฏิบัติตัวเองกรณีที่ยังไม่เจ็บป่วยสำหรับบุคคลทั่วไป และบุคคลที่เจ็บป่วยแล้ว เป็นภาษาง่าย ๆ เข้าใจได้ดี