เนื่องด้วยพระสังฆกรณียกิจจานุกิจทั้งหลายซึ่งทรงปฏิบัติบำเพ็ญ ทั้งทางด้านพระพุทธศาสนา การศึกษา และสังคม ล้วนเป็นหิตานุหิตประโยชน์แก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า สภามหาวิทยาลัยนเรศวรขอสดุดีพระเกียรติคุณพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพัฒนาสังคม ทูลถวายแด่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติคุณให้ปรากฏแก่สาธารณชน และเพื่อเป็นสวัสดิมงคลแก่มหาวิทยาลัยนเรศวร ในวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2560 ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีพระนามเดิมว่า “อัมพร ประสัตถพงศ์” เป็นบุตรชายคนโตในจำนวน 9 คน ของนายนับและนางตาล ประสัตถพงศ์ ประสูติที่บ้านตำบลบางป่า อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ทรงสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค และทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาศาสนศาสตรบัณฑิต จากสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย (มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยในปัจจุบัน) การศึกษาระดับมหาบัณฑิตด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี จากมหาวิทยาลัยพาราณสี (Banaras Hindu University) สาธารณรัฐอินเดีย
เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นพระมหาเถระผู้ยินดีในเนกขัมมปฏิปทาสัมมาปฏิบัติ พร้อมด้วยศีลาจารวัตรอันงดงามตามครรลองแห่งพระพุทธศาสนา ทรงพระปรีชาสามารถในการแสดงธรรมด้วยปฏิภาณจึงได้ทรงแสดงธรรมตามกาลประทานแก่พุทธบริษัททุกหมู่เหล่าเสมอมา ด้วยพระโวหารที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงบุคคลได้ทุกระดับ ธรรมที่ทรงแสดงนั้นมีตั้งแต่พื้นฐานในระดับโลกียะเพื่อความผาสุกแก่การดำรงตนในครอบครัวและสังคม ตลอดถึงระดับโลกุตระ เพื่อความหลุดพ้นจากห้วงทุกข์ตามอริยมรรคของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยิ่งไปกว่านั้น ยังทรงเป็นผู้วางรากฐานกิจการพระธรรมทูตรุ่นบุกเบิกมานับแต่ต้น เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีหลักฐานมั่นคงในดินแดนต่างประเทศ ปัจจุบันเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ยังรับภาระเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐอีกด้วย
เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ยังทรงอุปการะกิจการสาธารณสงเคราะห์เพื่อพหุชนทั้งอันโตชนและพาหิรชนไว้เป็นอันมาก อาทิ มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนวัดราชบพิธ โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถระ) และมูลนิธิพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร โดยมิได้เพียงแต่ประทานพระนามไว้ว่าทรงอุปถัมภ์เฉพาะเป็นเกียรติแก่องค์กรเท่านั้น หากยังได้ทรงพระเมตตาประทานทุนการศึกษาแก่นักเรียนนักศึกษา ทุนสงเคราะห์แก่ ผู้ป่วยที่ขาดแคลน และทุนค้ำจุนดูแลชีวิตของผู้สูงอายุให้มีความสุขตามอัตภาพในวัยชรา มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน นอกจากนี้ เมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆ ขึ้นในบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นวาตภัย อุทกภัย ธรณีพิบัติภัย หรือภัยแล้ง ก็ได้ทรงเป็นผู้นำรวบรวมทุนทรัพย์และสิ่งของจากพระภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชนทั้งหลายเพื่อนำไปบริจาคสงเคราะห์แก่ผู้ประสบภัยตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกครั้ง
ด้วยพระสังฆกรณียกิจจานุกิจทั้งหลายซึ่งทรงปฏิบัติบำเพ็ญ ทั้งทางด้านพระพุทธศาสนา การศึกษา และสังคม ล้วนเป็นหิตานุหิตประโยชน์แก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า สภามหาวิทยาลัยนเรศวรจึงมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรขอพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพัฒนาสังคม ทูลถวายแด่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติคุณให้ปรากฏแก่สาธารณชน และเพื่อเป็นสวัสดิมงคลแก่มหาวิทยาลัยนเรศวรสืบไป